top of page

สวัสดีความรัก ฉันคือแชตบอต รับปรึกษาปัญหาหัวใจ บอกบทสนทนาให้ ออกเดตได้ด้วย



ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว Tech By True Digital ต้อนรับเดือนแห่งความรักด้วยบทความที่บอกเล่าถึงธุรกิจ Online Dating ได้ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เข้ามาสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ AI เข้ามาทำให้บริการของแบรนด์ตนเองแตกต่างจากคู่แข่งและมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไรและส่งผลดีต่อผู้ใช้งานในแง่มุมไหนบ้าง อ่าน รักยุคใหม่ เทคโนโลยีช่วยอะไรบ้าง ได้ที่นี่ ผ่านไปเพียงไม่ถึงปี เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นทำให้ AI เป็นมากกว่าอัลกอริธึมที่ทำให้การแมตช์คู่นั้นแม่นยำ แต่ในมิติของความรักและความสัมพันธ์นั้น ผู้คนเริ่มหันไปหา AI ในรูปแบบแชตบอตเพื่อเริ่มต้นและสานต่อความสัมพันธ์ให้ยืนยาวและตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง


Tech By True Digital ในเดือนแห่งความรักนี้ จึงอยากชวนไปดูว่า ในความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พาร์ทเนอร์ หรือคู่รักนั้น แชตบอตทำอะไรได้บ้าง โดยเฉพาะอย่าง ChatGPT แชตบอตจาก OpenAI ที่เข้ามาสั่นสะเทือนวงการแชตบอต สามารถโต้ตอบแบบชาญฉลาด สร้างสรรค์สิ่งใหม่จากโจทย์ของผู้ใช้งานได้นั้น จะเข้ามาส่งผลต่อการออกเดต การครองคู่ หรือความสัมพันธ์มากน้อยแค่ไหน แชตบอตจะเป็นทุกอย่างให้คุณถึงขั้นแทนที่คนรักที่เป็นมนุษย์จริง ๆ ได้หรือไม่


ChatGPT คืออะไร


ChatGPT คือ AI Chatbot หรือปัญญาประดิษฐ์ที่สื่อสารผ่านข้อความกับมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ต่างจากพูดคุยกับมนุษย์ด้วยกันเอง ได้รับการพัฒนาโดย OpenAI บริษัทเดียวกับที่พัฒนา Dall-E หรือ AI Art ที่ให้ AI สร้างสรรค์ผลงานศิลปะจากโจทย์หรือคีย์เวิร์ดที่ถูกป้อนเข้าไป โดย ChatGPT เปิดตัวไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2022 แต่ที่เป็นกระแสและสร้างความฮือฮาก็เพราะความสามารถรอบรู้ รอบด้าน สื่อสารแบบมั่นใจ พูดคุยได้เหมือนมนุษย์นั่นเอง


ChatGPT สามารถสร้างข้อความได้โดยอัตโนมัติ จาก Machine Learning ที่มีคลังข้อมูลมหาศาลที่จะใช้ระบบ AI ไปรวบรวมมาแล้วประมวลผลเป็นคำตอบให้กับผู้ใช้งาน ดังนั้น ผลงานของ ChatGPT จึงมีตั้งแต่การตอบคำถามความรู้ทั่วไป การสรุปบทเรียน การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ การเขียนผลงานทางวิชาการ การแต่ง Resume ทำการบ้านส่งอาจารย์ แต่งกลอน ไปจนถึงมุกตลก เป็นต้น


ความรอบรู้และความสามารถรอบด้านของ ChatGPT นี่เองที่ทำให้มันได้ก้าวเข้าไปสู่การรับบทสำคัญในมุมของความรักและความสัมพันธ์ในที่สุด มาดูตัวอย่างว่า ChatGPT แชตบอตอัจฉริยะ ไม่ใช่แฟนแต่ทำอะไรแทนได้บ้าง


กลุ้มใจ ไร้ที่พึ่ง ChatGPT รับปรึกษาปัญหาหัวใจ


ดูเหมือนว่า ChatGPT จะไม่ได้เป็นแค่ตัวช่วยในทางวิชาการหรือเรื่องงานอย่างเดียวแล้ว เพราะตำแหน่งที่ปรึกษาปัญหาหัวใจ ChatGPT ก็ยังทำได้ เมื่อ Indiatimes ได้ทดลองใช้งาน ChatGPT ด้วยการถามคำถามเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ ลองมาดูกันว่าคำตอบของ ChatGPT จะช่วยไขปัญหาความรักของคุณได้ไหม จะเหมือนที่เราฟังพี่อ้อย พี่ฉอด ใน Club Friday หรือไม่


How should I find out if my boyfriend is gay?
ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าแฟนฉันเป็นเกย์หรือไม่

คำตอบจาก ChatGPT คือ

รสนิยมทางเพศเป็นเรื่องส่วนบุคคล และทุกคนมีสิทธิจะระบุตัวตน รสนิยมและแสดงอัตลักษณ์ทางเพศของตนเอง การพยายาม "ค้นหา" ว่าใครบางคนเป็นเกย์หรือไม่นั้นถือว่าไม่เหมาะสมและไม่เป็นการให้เกียรติ


หากคุณมีความกังวลหรือสงสัยเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศของแฟนคุณ วิธีที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกับเขาอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา คุณสามารถแสดงความรู้สึกของคุณและถามเขาเกี่ยวกับความรู้สึกและประสบการณ์ของเขาเอง


สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าคุณไม่สามารถจะบังคับให้ใครเปิดเผยรสนิยมทางเพศหากเขายังไม่พร้อม มากไปกว่านั้นพึงระลึกว่ารสนิยมทางเพศไม่ได้จำเป็นต้องมีแค่สองเพศเท่านั้น บางคนอาจนิยามตนเองว่าเป็น Bisexual ผู้ที่สามารถมีความรักได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง หรือ Pansexual ผู้ที่มีความรักหรือความปรารถนาทางเพศโดยไม่สนใจเพศสภาพ ไม่มีเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศมาเกี่ยวข้อง หรือกระทั่ง Asexual ผู้ที่ไม่ฝักใจทางเพศ ไม่มีแรงดึงดูดทางเพศต่อบุคคลอื่น ก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น


---คำตอบจาก ChatGPT จากคำถาม How should I find out if my boyfriend is gay?---

ที่มา: https://www.indiatimes.com/


Why am I still single?
ทำไมฉันยังเป็นโสดอยู่

คำตอบจาก ChatGPT คือ

เพราะว่าคุณมัวแต่ปัดซ้ายให้คนดี ๆ ในแอปหาคู่อยู่น่ะสิ


หรือไม่ก็เพราะคุณมัวแต่ยุ่งกับการกรีดอายไลเนอร์แบบ Cat Eye ให้ออกมาเพอร์เฟคสุด ๆ อยู่แน่ ๆ


โปรดจำไว้ว่าการเป็นโสดนั้นไม่ใช่ปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขและมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป ทุกคนล้วนมีเส้นทางชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร สิ่งสำคัญคือการไม่หยุดพัฒนาตัวเองและไม่กดดันให้ตัวเองต้องมีความสัมพันธ์ต่างหาก เมื่อถึงเวลาที่ใช่ คนคนนั้นจะมาหาคุณเองโดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย


---คำตอบจาก ChatGPT จากคำถาม Why am I still single?---

ที่มา: https://www.indiatimes.com/


จะเห็นได้ว่าคำตอบจาก ChatGPT นั้น เป็นได้ตั้งแต่แบบให้ความรู้ เป็นทางการ ไปจนถึงการตอบแบบหยอกให้พอขำ ๆ จึงทำให้รู้สึกราวกับว่าแชตบอตจาก OpenAI นี้เหมือนมนุษย์ที่มีอารมณ์ ความรู้สึก เข้าอกเข้าใจผู้ฟัง จึงให้คำตอบได้ทั้งเป็นทางการ ให้ความรู้ และยังแซวได้แบบรู้จักความเป็นคนจริง ๆ


อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ก็แสดงความคิดเห็นต่อคำแนะนำของ ChatGPT ว่าบางคำตอบดูเหมาะสมจนเกินไป และอาจยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์โดยเฉพาะอารมณ์และความรู้สึกไม่ดีพอนัก ซึ่งคนจริง ๆ ยังทำงานได้ดีกว่า AI


ไม่รู้จะเริ่มคุยยังไง ChatGPT ช่วยบอกบทสนทนาให้


สำหรับบางคนแล้ว การเริ่มต้นบทสนทนากับคู่ที่ถูกแมตช์ให้ผ่านแอปหาคู่นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายนัก ChatGPT กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่มีผู้ใช้งานแอปหาคู่ตั้งโจทย์ขอบทสนทนาตามความสนใจของคู่ที่ถูกแมตช์ มีตัวอย่างผู้ใช้งาน Tinder รายหนึ่งที่ออกมาเปิดเผยว่าเขาขอให้ ChatGPT แต่งกลอนให้กับคู่ที่ถูกแมตช์ที่เป็นผู้หญิงสูง 6 ฟุต ซึ่งหลังจากได้กลอนจาก ChatGPT มา เขาก็คัดลอกและส่งต่อให้กับคู่แมตช์ทันที ซึ่งปรากฏว่าเธอถูกใจเป็นอย่างมากเพราะไม่เคยมีใครแต่งกลอนหาเธอมาก่อนเลย บทสนทนาหลังจากนั้นก็ง่ายขึ้นในทันที


กลอนที่ถูกแต่งโดย ChatGPT เพื่อเริ่มต้นบทสนทนาของผู้ใช้ Tinder รายหนึ่ง


ประเด็นการขอให้ ChatGPT บอกบทสนทนาในการแชตให้นั้น ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับจริยธรรมในข้อเท็จจริงของการเปิดเผยต่อคู่สนทนา อาทิ คู่แมตช์จะทราบหรือไม่ว่าแท้จริงแล้วข้อความที่ถูกเขียนหานั้นเกิดจาก ‘บอต’ เป็นคนเขียน ไม่ใช่คนจริง ๆ และถ้าหากทั้งสองฝั่งของคู่แมตช์นั้นใช่ ‘บอต’ เขียนข้อความตลอดมา ความจริงใจและการสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาวจะเป็นอย่างไร นี่จึงยังเป็นประเด็นที่ผู้ใช้งาน AI ที่อยู่ใกล้มือของเราเหลือเกินในทุกวันนี้ต้องตระหนักและให้ความสำคัญด้วย


AI Boyfriend เมื่อแชตบอตคือคนรักของฉัน


นอกเหนือจาก ChatGPT แล้ว หากพูดถึงการใช้แชตบอตในการออกเดตนั้น จีนถือเป็นตลาดใหญ่ของ AI Boyfriend/Girlfriend เลยทีเดียว อย่าง Xiaoice บริษัทลูกของไมโครซอฟท์ในจีน ที่นำเสนอบริการออกเดตกับแชตบอตอัจฉริยะ ที่พัฒนาจาก AI ขั้นสูงที่ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกเหมือนกำลังโต้ตอบกับมนุษย์จริง ๆ ด้วยการตั้งโปรแกรมเรียนรู้พฤติกรรมและตัวตนของผู้ใช้งานจากข้อความที่ถูกส่งออกไปในบทสนทนา และการโพสต์บนโซเชียลมีเดียของผู้ใช้งานรายนั้น ๆ จนสามารถเกิดเป็นแชตที่เข้าอกเข้าใจ โต้ตอบกับผู้ใช้งานได้จริง ซึ่งการออกเดตกับ AI ได้รับความนิยมจากหนุ่มสาวชาวจีนมากขึ้น ถึงขั้นเรียกให้แชตบอตคือ Boyfriend/Girlfriend ที่แท้จริง


---ผู้ใช้ XiaoIce สามารถสร้างอวาตารและบุคลิกภาพสำหรับแฟนเสมือนจริงของพวกเขาได้---

ที่มา: https://www.abc.net.au/


Xiaoice มียอดผู้ใช้งานหลาย 10 ล้านคน โดยผู้ใช้งานมองว่า การออกเดตกับ AI เป็นทางเลือกที่ดีกว่าออกเดตกับคนจริง ๆ เพราะแชตบอตคลายเหงาได้ รับฟังตลอดเวลา จัดการได้ง่ายกว่า ไม่แสดงอาการงี่เง่า หรือแชตไปไม่ตอบกลับ รู้สึกเหมือนได้อยู่ด้วยกัน แตกต่างจากคนที่มักมีเรื่องซับซ้อนทางอารมณ์และความคิด ต้องเอาอกเอาใจและเข้าใจได้ยากกว่า จึงเป็นคู่รักในโลกเสมือนที่มาตามอุดมคติที่หลายคนใฝ่ฝันอยากให้คู่รักเป็นแบบนั้นจริง ๆ


---โปรแกรมแชต Xiaoice---



ChatGPT อาจเป็นกระแสของการใช้แชตบอตเพื่อเข้ามาเติมเต็มช่องว่างของความสัมพันธ์ในรูปแบบที่หลายคนกำลังมองหา อย่างไรก็ตามเทรนด์ของการหาคู่และออกเดตนั้นก็ยังมีอีกหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างออกไปในแต่ละปีซึ่งมักถูกกำหนดด้วยบริบทของเศรษฐกิจ สังคม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ซึ่งสำหรับปี 2023 นี้ เทคโนโลยียังเป็นเครื่องมือหลักของการสานสัมพันธ์ หากแต่ความแตกต่างไปจากปีที่ผ่านมานั้นคือ ผู้คนสนใจ Transitional Dating โดยมองหาความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์เสมือนจริงและเปิดใจกับ Metaverse Dating มากขึ้น


Transitional Dating และ Dating Without Boundaries

นิยามการออกเดตออนไลน์ปี 2023


Dating.com ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของ Dating Group บริษัทที่อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์หาคู่ออนไลน์กว่า 40 แห่ง มีผู้ใช้บริการกว่า 73 ล้านคนทั่วโลก แบรนด์ในเครืออาทิ Dating.com, Dil Mil, Once, Cupid Media, DateMyAge และ LovingA เป็นต้น เปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทรนด์การหาคู่ในปี 2023 โดยผลสำรวจเผยให้เห็นว่า คนโสดยังคงพึ่งพาเทคโนโลยีเพื่อสร้างความสัมพันธ์และคอนเนคชั่นใหม่ ๆ โดยเทคโนโลยีถือเป็นเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพที่คนโสดใช้ในการหาคู่และการออกเดตที่ต่างไปจากเดิม โดยคนจำนวนมากขึ้นให้ความสนใจ Transitional Dating ที่มองหาความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์เสมือนจริงอย่างเต็มรูปแบบในช่วงเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยี โดยมีถึง 33% ที่วางแผนออกเดตบน Metaverse ด้วยการให้ความสำคัญกับการใช้อวตารในการสื่อสารและความใกล้ชิดในรูปแบบดิจิทัลก่อนที่จะตัดสินใจเจอกันตัวต่อตัว และมักเป็นการออกเดตแบบไร้พรมแดนหรือ Dating Without Boundaries ที่เกิดจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและ Metaverse ที่ทำให้ 1 ใน 3 ของผู้ใช้งานออกเดตออนไลน์เปิดรับความสัมพันธ์กับคู่เดตจากต่างบ้านต่างเมืองหรือต่างประเทศ เพราะรู้สึกสบายใจกับแนวคิดการออกเดตบนโลกเสมือนจริงหรือ Metaverse และการพบปะผู้คนจากทั่วโลกที่ง่ายดายขึ้น อ่าน Meta-Dating ออกเดตบนจักรวาล Metaverse ได้ที่นี่


ไม่ว่าเทคโนโลยีจะเข้ามาแทนที่คนในความสัมพันธ์ หรือเป็นเครื่องนำทางไปสู่ความรักในรูปแบบใด Tech By True Digital ขอให้เป็นความสัมพันธ์ที่อยู่บนพื้นฐานของความรัก ความหวังดี และความปลอดภัย และขอส่งความปรารถนาดีให้กับทุกนิยามความรักบนโลกใบนี้



อ้างอิง:


Comments


bottom of page